Eunhyuk Part
ม่านน้ำตามันทำให้ผมมองอะไรแทบไม่เห็นแม้แต่จะยกมือเพื่อปาดน้ำตายังทำไม่ได้เลย
ผมนี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่นะ ทำไมเขาถึงทำเหมือนผมไม่มีความรู้สึก
ทำเหมือนว่าผมเจ็บไม่เป็น ยิ่งคิดน้ำตามันก็ยิ่งรื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
ทงเฮอุ้มผมขึ้นพาดบ่าแข็งแรงของเขาแม้ผมจะดิ้นรนเพียงใดเขาก็ยังคงเดินอาดๆเข้าไปในห้องนอนแล้วจับร่างของผมเหวี่ยงลงบนเตียงนุ่มจนผมจุก
ตอนนี้ผมกลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไงแล้วท่าทางและแววตาที่ดูแข็งกร้าวของเขามันทำผมสั่นไปทั้งตัว
ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยด้วยซ้ำจะว่าไปผมไม่รู้จักเขาเลยต่างหาก
ผมไม่ควรจะเดินเข้ามาในห้องนี้ตั้งแต่แรก ไม่ควรเลยจริงๆ
น้ำใสๆมันยังคงไหลออกมาอาบแก้มของผมไม่ขาด
แต่นั่นไม่ได้ทำให้คนตรงหน้าผมมันรู้สึกสงสารผมบ้างเลย ไม่เลยสักนิด
“เลิกบีบน้ำตาได้แล้ว” น้ำเสียงทุ้มนั่นมันช่างเย็นชา
เขาคร่อมร่างของผมไว้อย่างง่ายดายผมไม่มีแรงจะต่อกลอนกับเขาเลยในเวลานี้
เหมือนทุกส่วนมันชาไปหมด
กล้ามเนื้อของผมมันตายไปหมดแล้วหรือยังไงนะทำไมผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้
ทงเฮเลื่อนมือมาจับที่สะโพกของผมนั่นทำให้ผมรู้สึกตัวสะดุ้งเฮือกแล้วรีบตีไปที่มือของเขาในทันที
แต่ทงเฮก็ใช้มือของเขารวบแขนผมทั้งสองข้างขึ้นไปเหนือหัวได้เพียงแค่มือเดียวของเขา
เขากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ยิ้มที่ผมเกลียดมากๆ
มันทำให้ผมโคตรจะหงุดหงิดทุกครั้งที่เขายิ้ม
“อะ อย่านะ นายจะทำอะไรฉัน!” ในที่สุดผมก็พูดออกไปได้
และทำได้เพียงดิ้นไปมา
แต่เขาที่ไม่รู้ว่าไปเอาแรงมาจากไหนเพียงแค่มือเดียวของเขาที่จับตรงแขนของผมไว้นั้นบีบจนผมเจ็บร้าวไปทั้งแขนและมือที่ว่างอีกข้างของเขาก็กำลังทำหน้าที่ถอดเข็มขัดของผมออกอย่างง่ายดาย
แล้วจับมันโยนลงไปส่งเสียงดังตกกระทบพื้น แล้วหันมาปลดซิบกางเกงผมลง
ดึงรั้งมันลงไปจนกองอยู่ที่ข้อเท้า “สารเลวเอ้ย ปล่อยนะ
อย่าทำ! นายมันเลว!” ผมทั้งอึ้งทั้งกลัวและอายเขาจ้องเขม่งมาที่หน้าผมด้วยความโกรธที่มีมากขึ้นอีกเท่านึง
“ถ้าฉันจะทำนายก็ไม่รอด” เขาไม่พูดเปล่าซ้ำยังดึงรั้งเอาอันเดอร์แวร์ของผมลงไปกองรวมกับกางเกงยีนส์ของผมที่ข้อเท้า
ตอนนี้ท่อนร่างของผมจึงไม่มีสิ่งใดปิดบังเลยสักชิ้น
มันทั้งหนาวทั้งอายทั้งเจ็บแบบที่ไม่รู้ว่าผมจะทนมันได้มากแค่ไหน
ผมเข้าใจแล้วว่าคำพูดนั้นของเขาคืออะไร ‘ต่อไปนายจะไม่มีสิทธิ์พูดแล้วล่ะว่านายไม่ใช่ของฉัน!’
น้ำตาของผมมันยิ่งอาบนองเต็มสองแก้มไหลลงที่นอนจนมันเปียกชุ่ม
“ฮึกปล่อยฉัน อะ อย่า” ทงเฮโน้มตัวเข้ามาหาผมใช้มือเดียวของเขากระชากเสื้อเชิ้ตสีขาวของผมจนกระดุมขาดกระเด็นและเผยให้เห็นหน้าอกขาวของผม
เขาไม่รอช้าหรือพูดอะไรอีกแล้วฝังหน้าลงมาที่ต้นคอขาวกดเม้มริมฝีปากหนานั้นลงมาอย่างหนักหน่วง
ผมดิ้นและส่ายหน้าไปมาแต่อีกฝ่ายกำลังดูดเม้มต้อคอของผมเรื่อยแล้วบดขยี้ริมฝีปากของผมลงมาอย่างหนักหน่วงโดยที่ผมไม่ได้ตั้งตัวเผลอเปิดริมฝีปากนั้นให้ลิ้นร้อนของเขาแทรกผ่านเข้ามาอย่างง่ายดายดูดดันลิ้นเล็กของผมกวาดต้อนจนทั่วโพรงปาก
“อื้อ” ผมหายใจไม่ทันเหมือนจะขาดใจตายเสียให้ได้
ทงเฮดูดดันและครอบครองปากของผม
มือหนาบีบขย้ำลงบนอกและบดขยี้ยอดอกของผมยิ่งทำให้สติของผมมันกระเจิงไปจนหมดนี่มันไม่ใช่ผมเลย
ทงเฮละจากริมฝีปากของผมเพียงเพื่อให้ผมได้สูดลมหายใจเข้าไปแล้วบดขยี้ลงมาร้อนแรงกว่าเดิม
ร่างกายของผมมันร้อนไปหมดหยาดน้ำตาก็ไหลจนแทบจะหมดตัว
เขาปล่อยให้แขนของผมเป็นอิสระแล้วใช้มือหนานั้นลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของผมอยากจาบจ้วงและถือวิสาสะจับบีบคั้นด้วยความหมั้นเขี้ยว
ผมจึงทุบที่ไหล่กว้างของเขาทั้งผลักและทุบแต่มันเหมือนเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์โกรธของเขาซะมากกว่าเพราะทงเฮยิ่งบดเบียดริมฝีปากลงมาจนผมแทบขาดอากาศอีกครั้งและปากของผมมันก็บวมเจ่อและเจ็บระบม
มือหนาของเขาทำหน้าที่ลูบไล้ไปทั่วร่างของผม
รู้ตัวอีกทีเสื้อของผมมันก็หลุดออกไปหมดแล้วผมไม่เหลืออะไรเลย
“ฮึก อะ!! ยะ อย่านะ!!” ผมสะดุ้งเฮือกมีมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปอยู่ในตัวของผม
ดวงตาของผมเบิกโพลงความรู้สึกเจ็บแล่นไปถึงขั้วหัวใจแม้มันจะเป็นเพียงนิ้วของอีกฝ่ายแต่พอเขาเล่นสอดมันเข้าไปโดยที่ผมไม่ตั้งตัวมันก็เหมือนมีอะไรมาทิ่มหัวใจเลยทีเดียว
เจ็บจนต้องร้องออกมาอีกครั้ง “ไอ้ ละ เลว เจ็บ อะ!” ผมเห็นเพียงรอยยิ้มที่มุมปากของเขาเท่านั้น
ทงเฮกดนิ้วที่จุดเร้าของผมจนผมต้องบิดเร้าร่างกายแล้วร้องครางออกมาด้วยความรู้สึกที่เสียวซ่านและเจ็บปวดมันผสมปนเปจนผมแทบจะแยกไม่ออก
เขาโน้มตัวลงมาดูดเม้มที่ยอดอกของผมขบเม้มและดูดเลียจนชุ่มมันยิ่งกระตุ้นร่างกายส่วนร่างของผมมันทรมานเหลือเกิน
ทงเฮยังคงสอดแทรกนิ้วของเขาในช่องทางด้านในของผมไม่หยุดกดย้ำลงบนจุดเร้านั่นครั้งแล้วครั้งเล่า
ชั่วครู่ผมได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอของเขา เขากำลังเยาะเย้ยผมสินะ
ผมที่ได้แต่นอนให้เขารังแกอยู่แบบนี้ผมที่โคตรจะอ่อนแอจนไม่น่าให้อภัยตัวเอง
“ยะ อย่า ฮึก อื้อ” ผมจิกไปบนหลังของเขาขยุ้มเสื้อของเขาจนติดมือจับผมของเขาดึงจนเจ้าตัวหงุดหงิด
ผละลิ้นร้อนนั้นออกจากยอดอกของผมแล้วจ้องหน้าผมด้วยสายตาดุดัน
แล้วหยัดตัวลุกขึ้นปลดซิบกางเกงออกดึงมันลง ผมได้แต่อึ้งไปกับการกระทำของอีกฝ่าย “อะ เจ็บ อย่า!” ทงเฮแทรกตัวเข้ามาหว่างขาผมจับขาเรียวของผมพาดที่ไหล่กว้างของเขาทั้งสองข้างจับสะโพกของผมแล้วแทรกแกนกายของเขาเข้ามาในช่องทางคับแคบของผม
ทันทีที่ผมสัมผัสมันได้ดวงตาผมก็เบิกโพลงอีกครั้งความเจ็บจากนิ้วของเขายังไม่เจ็บเท่าแกนกายของเขาที่พยายามกระแทกกระทั้นเข้ามาเลย
ความเจ็บมันมากจนผมอยากจะกรีดร้องออกมาแต่ก็ทำได้เพียงยกมือตัวเองมาปิดปากและเม้มปากตัวเองแน่นไม่ให้ร้องออกไป
เขาดูจะหงุดหงิดที่ยัดแกนกายเข้าไม่ได้ดั่งใจในตอนแรกแต่ก็จับสะโพกของผมยกแล้วโน้มตัวมาข้างหน้า
“อื้ออ ฮึก” ผมเจ็บน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาผมกัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บระบมและได้กลิ่นคาวเลือดอีกครั้งเมื่อแผลเก่าก่อนหน้ามันมีเลือดซิบออกมาอีกครั้ง
แต่มันยังไม่เจ็บเท่าช่องทางด้านในของผมที่มันเหมือนจะฉีกขาดจากการกระแทกของทงเฮเลย
ทงเฮใช้ความพยายามอยู่ครู่ก็ดันแกนกายของเขาเข้ามาจนผมจุก
มันลึกจนร่างกายผมมันอึดอัด และร้อนผ่าวเหมือนคนเป็นไข้
“ว่าง่ายๆแล้วนายจะไม่เจ็บ” เขากระซิบลงมาที่ข้างหูของผมกระตุกยิ้มให้อย่างพอใจแล้วบดขยี้ริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปากของผมพร้อมกับการขยับสะโพกที่เริ่มเป็นจังหวะความเจ็บมันยังคงอยู่แต่มันเป็นความเจ็บที่ผมรู้สึกดี
ดีจนอยากจะตบหน้าตัวเองสักร้อยที
“อื้อ” มันช่างน่าอายที่ผมต้องปลดปล่อยอารมณ์ออกมาด้วยเสียงคราง
และร่างกายที่บิดเร้าไปกับการขยับของทงเฮ
ผมรู้สึกโล่งเมื่อน้ำสีขาวขุ่นของผมมันปลดปล่อยออกมาจนผมรู้สึกเย็นที่หน้าท้องของผม
เขาประคองสะโพกของผมแล้วกระแทกแกนกายเข้ามาอีกด้วยท่วงทีที่แรงขึ้น
ผมสะดุ้งเฮือกทุกครั้งที่ทงเฮกระแทกมันเข้ามาในช่องทางด้านในของผม
ความเจ็บมันยังคงอยู่แต่ผมกลับต้องการมันผมคงจะบ้าไปแล้วก็ได้ผมจิกเล็บลงบนหลังของเขาถ้าเล็บของผมมันคมกว่านี้เสื้อของทงเฮอาจจะขาดไปแล้วก็ได้เพราะผมระบายความเจ็บปวดลงบนหลังของเขา
“อะ นะ นายมันเลว ฉันเกลียด นาย อื้อ” ผมไม่รู้หรอกว่าที่ผมบอกว่าผมเกลียดเขาจริงๆแล้วผมรู้สึกแบบนั้นมั้ยแต่ผมโกรธเขา
โกรธมากด้วย
“ฉันก็เลว มาตั้งนานแล้วล่ะ” เสียงทุ้มของเขาบอกอย่างไม่รู้สึกผิดอะไรเลยด้วยช้ำ
“อะหยุด นะ หยุด!!” ทงเฮกระแทกเข้ามาอย่างรุนแรงผมคงจะไปกระตุ้นอารมณ์โกรธของเขาก็เป็นได้เขาถึงได้กระแทกมันเข้าออกรุนแรงจนผมแทบจะหายใจไม่ออก
ร่างกายบิดเร้าหอบกระเส่าเมื่อสิ่งที่กระแทกในกายมันโดนจุดอ่อนไหว
ผมปลอดปล่อยน้ำสีขุ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เจ็บจนชา
ทงเฮครางออกมาอย่างพอใจที่เห็นผมปลดปล่อยออกมา “อะอ๊า” เขาไม่คิดอะไรเลยหรือไงนะถึงทำกับผมแบบนี้
ไม่คิดเลยว่าเขาจะเลวถึงเพียงนี้
นี่มันข่มขืนนะ
ผมโดนข่มขืน
“อะ อ๊า นาย หยุด อื้อ” ทงเฮดึงรั้งผมเข้าไปบดจูบอย่างหนักหน่วง
เขาปลดปล่อยในกายของผมจนร้อนไปหมดน้ำสีขาวขุ่นของเขาไหลออกมาเลอะเปลอะที่ขาด้านในของผม
แต่นั่นไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
หากแต่เขาจับผมคว่ำหน้าลงกับเตียงโดยที่ผมไม่มีแม้แต่แรงจะพลิกหรือคลานหนีไปด้วยซ้ำ
สติของผมมันเหมือนจะดับวูบไปหลายครั้งแต่เมื่อทงเฮแทรกแกนกายเข้ามาในช่องทางด้านในของผม
มันก็ปลุกเร้าอารมณ์ของผมขึ้นมาอีกครั้ง
น่าอาย
ผมไม่อยากจะรับรู้อะไรอีกแล้ว
ครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นคือทงเฮจับผมนั่งคร่อมตักเขาไว้
ผมเพียงแต่เกยคางกับไหล่ของเขาอย่างอ่อนแรงก่อนจะไม่รับรู้อะไรอีก
สติของผมมันดับวูบไป….
………………………………………………………………………………………
ติชม คอมเม้น ที่เว็บเด็กดีนะคะ http://writer.dek-d.com/gaekung-donghae/writer/viewlongc.php?id=1349586&chapter=11
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น